วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Week 9 : เรื่องราวที่นักเรียนน่าสนใจ [Desert Eagle]

Desert Eagle เข้าสู่สายการผลิตอย่างเป็นทางการในปี 1984 ในอิสราเอลโดย IMI รุ่นพื่นฐานของปืนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปืนที่ใช้กระสุนหนักระดับมหาโหดทั้งนั้น เช่น .357Magnum, .41Magnum, .44Magnum และ .50AE ( Action Express ) ตามลำดับโดย .50AE นั้นนับเป็นกระสุนปืนพกออโต้ที่มีพลังทำลายล้างสูงที่สุดในโลก ว่ากันว่ามันสามารถล้มกระทิงที่กำลังคลั่งอยู่ได้ในนัดเดียว
ปืนกระบอกนี้ใช้ระบบการทำงานแบบ Gas-Operated System ซึ่งเดิมทีระบบนี้ถูกออกแบบให้ใช้กับไรเฟิลทางการทหารเท่านั้น สาเหตุที่ต้องใช้ระบบนี้นั่นก็เพราะกระสุนที่ใช้กับปืนกระบอกนี้ล้วนแต่เป็นกระสุนระดับสุดยอด ซึ่งนอกจากจะมีหน้าตัดที่ใหญ่แล้ว ยังมีการเผาใหม้ของดินปืนและแกสในอัตตราที่สูงมาก แน่นอนว่าด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ระบบอื่นๆ ในปืนพกทั้งปวง ( ยกเว้นปืนลูกโม่ ) ไม่ว่าจะโบลว์แบ๊คหรือรีคอยล์ ก็คงจะรับไม่ไหว และจะเป็นอันตรายของผู้ใช้จึงต้องย่ออาวุธสงครามลงมาในปืนพกดังกล่าว ใน DE นั้นแทนที่จะเป็นเซียร์ควบคุมระบบออโต้อย่างปืนไรเฟิล ก็จะกลายเป้นห่วงคุมการบิดตัวของลำกล้องและคุมแก๊สแทนโดยห่วง 3 ห่วงนี้มีหน้าที่ในการคุมการทำงานของลูกถ่วงหมุนดักแก๊สจากการระเบิดของกระสุน เพื่อดักแก๊สในลำกล้องแล้วส่งไปยังรูระบายแก๊สเพื่อผลักดันลูกเลื่อน ในการขึ้นลำ ยิง และคัดปลอก ซึ่งอัตตราการทำงานนั้นจะระเบิดขึ้นในชั่วพริบตา และป้อนกระสุนกลับเข้าลำกล้องเพื่อพร้อมยิงนัดต่อๆ ไป ใน DE รุ่นแรกในปี 1984 มีห่วงคุมถึง 6 ห่วงด้วยกันแต่ต่อมาพบว่ามีผลเสียทางบริษัทจึงตัดสินใจตัดออกไปบางส่วน แต่ก็ออกแบบให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น หากบางคนคงมีข้อสงสัยว่าถ้าหากรูระบายแก๊สตันขึ้นมาละ ? จะยังยิงได้อยู่อีกเหรอ ? แน่นอนทาง IMI และ Magnum Research INC. ได้กล่าวไว้ว่าคราบตะกั่วที่ยิงจากตัวปืนแต่ละครั้งไม่ส่งผลเสียใดๆ และไม่ทำให้ท่อระบายแก๊สตันเพราะตะกั่วนั้นมีความอ่อนนิ่มจนเกินไป จึงไม่เป็นสาเหตุในการอุดตันของท่อแก๊ส แต่ถ้าเป็นดคลนหรือทรายละก้ไม่แน่...... หากตันจริงๆ ปืนก้ยังยิงได้ตามปรกติเพียงแต่ไม่ออโต้เท่านั้นเอง เราต้องบริหารกลไกด้วยมือเอง โดยการกระชากลำเลื่อนเพื่อคัดปลอกและป้อนกระสุนนัดต่อไปให้พร้อมยิง
ที่มา:http://www.thaiairsoftgun.com/board/index.php?topic=14049.0

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week 8 : Review/แนะนำการใช้งานโปรแกรม (Payday 2)

Payday 2 พัฒนาโดย Overkill Software ซึงเป็นภาคต่อของเกม Payday : The Heist โดยตัวเกมจะเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่งหรือFPS
Payday 2 จะให้เรารับบทเป็นอาชญกรมือพระกาฬ หนึ่งในสี่ตามเนื้อเรื่อง-v'เกมส์นั้นก็คือ Dallas, Hoxton, Chain และ Wolf โดยมีภารกิจหลักส่วนใหญ่ คือ ปล้นธนาคาร ภายในเกมส์จะให้เราเลือกภารกิจได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องปล้นธนาคารอย่างเดียว เพราะภารกิจมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคนคุ้มกันการส่งของ แอบเข้าบ้านคนอื่นเพื่อนขโมยของชิ้นสำคัญ หรือรับจ้างฆ่าคน โดยเราสามารถเลือกภารกิจได้อย่างอิสระผ่านทางระบบเครือข่ายอาชญากรรมขนาดยักษ์ที่ถูกเรียกว่า CrimeNet
Payday 2 ไปจำเป็นต้องเล่นออนไลน์เสมอไป สามารถเล่นคนเดียวในวันเน็ตล่มได้ แต่อาจจะเล่นยากหน่อย สำหรับคนที่คิดจะเล่นแต่กลัวว่าโลกออนไลน์ใน Payday 2 จะไร้คนละก็คิดใหม่เถอะครับ ตอนนี้ Payday 2 ก็อายุเกินหนึ่งขวบแล้ว คนออนไลน์ต่อวันก็ประมาณหมื่นนึง เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเหงาเลย
นอกจากการให้เลือกเล่นภารกิจอย่างอิสระแล้ว วิธีการเล่นในแต่ละด่านก็ยังสามารถเลือกได้อย่างอิสระเช่นกัน จะเล่นแบบย่องไปเข้าประตูหลังแล้วฉกเงินออกมาโดยไม่มีใครรู้ หรือสาดกระสุนใส่ทุกคนที่ขวางหน้าก็แล้วแต่เลยครับ โดยภารกิจนึงสามารถเล่นได้สี่คนเท่านั้นครับ มากกว่านี้ไม่ได้ ภารกิจส่วนใหญ่จะเล่นแค่วันเดียวหรือด่านเดียว แต่บางภารกิจก็ต้องเล่นหลายวันหรือหลายด่านครับ โดยภารกิจที่มีหลายวันหรือหลายด่านนนั้นให้ค่าตอบแทนสูงกว่าแบบวันเดียวอย่างแน่นอนครับ
ระบบปรับแต่งตัวละครใน Payday 2 นั้นน่าสนใจมากที่เดียว เพราะเกมส์มีระบบ XP หรือค่าประสบการณ์ให้ เพราะฉะนั้นต้องมี Level แน่นอน และเวลา Level Up ก็จะได้แต้มสำหรับปลดล็อค Skills เพียง 1 แต้ม ซึ่งบาง Skills นั้นต้องใช้ค่าสกิลมากกว่าหนึ่ง ทำให้ผู้เล่นต้องขยันเล่นพอสมควรเลยละครับ และใช้เพียงแต้มซื้อ Skills  ไม่ได้นะครับต้องมีเงินด้วย

Trailer








วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week 7 : คอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์



คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิดคำนวณและสามารถจำข้อมูล ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งต่อไป  นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่องและสามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ได้
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบ่งตามลักษณะการเชื่อมต่อทางภูมิศาสตร์ หรือระยะทางการเชื่อมต่อ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. ระบบเครือข่ายเมือง (Metropolitan Area Network :MAN)
          เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายท้องถิ่นหลายๆ ระบบเข้าด้วยกันในพื้นที่เดียวกัน เช่นภายในเมืองเดียวกัน เกิดเป็นเครือข่ายของเมืองนั้น ระบบเครือข่ายนี้จะใช้สื่อเชื่อมโยงทั้งชนิดใช้สายสัญญาณและชนิดไม่ใช้สายสัญญาณผสมเข้าด้วยกัน ตามลักษณะพื้นที่ ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล ในระยะทางไม่เกิน 60 กิโลเมตร
2. ระบบเครือข่ายระยะไกล (Wide Area Network :WAN)
ป็นเครือข่ายที่ติดตั้งใช้งานอยู่ในบริเวณกว้าง โดยมีการส่งข้อมูลในลักษณะเป็น Packet ซึ่งต้องเดินทางจากเครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทางไปสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง Packet นี้ส่งจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งเมตร
3.ระบบเครือข่ายระยะใกล้หรือท้องถิ่น (Location Area Network :LAN)
          เป็นรูปแบบการทำงานของระบบเครือข่ายหนึ่งที่ช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์ใช้งานทางด้านคอมพิวเตอร์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงสื่อสาร ส่งข้อมูล ติดต่อใช้งานร่วมกันได้ การติดต่อสื่อสารของอุปกรณ์จะอยู่ในบริเวณแคบ โดยทั่วไปจะมีระยะการไม่เกิน10 กิโลเมตร เช่น ภายในอาคารสำนักงาน ภายในคลังสินค้า โรงงานหรือ ระหว่างตึกใกล้ๆ เชื่อมโยงด้วยสายสื่อสารจึงทำให้มีความเร็วในการสื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วสูงมากและความผิดพลาดต่ำ
ที่มา: http://www.krunee.com/content132.html
http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro_com/wbi1/hie/page11.htm

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week 6 : วิเคราะห์ข้อสอบ o-net คอมพิวเตอร์ 5 ข้อ (2557)

1.กลุ่มเพื่อนไทยต้องการทำโครงงานเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องรดน้ำต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์ โครงงานที่กลุ่มเพื่อนไทยต้องทำเป็นโครงงานประเภทใด
1.     การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
2.     การพัฒนาเครื่องมือ
3.     การทดลองทฤษฎี
4.     การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
5.     การพัฒนาใช้งาน
เฉลย เพราะเป็นโครงงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรมเพื่อสร้างผลงานประยุกต์ในชีวิตประจำวัน

2.การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับจอแสดงผลต้องใช้หัวเชื่อมต่อในข้อใด
1.      

2.      

3.   
   
4.      

5.      

เฉลย 4 เป็นหัวเชื่อม DVI ที่มีคุณสมบัติเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับจอแสดงผล

3.ข้อใดสรุปความรู้เรื่ององค์ประกอบของระบบสารสนเทศได้ถูกต้อง
1.     ระบบสารสนเทศโดยทั่วไปคือการจัดการข้อมูลให้นำไปใช้ประโยชน์ได้
2.     ระบบสารสนเทศจะทำงานได้ต้องประกอบด้วยบุคลากร ข้อมูล และฮาร์ดแวร์
3.     ระบบสารสนเทศเป็นกระบวนการทำงานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้น
4.     ระบบสารสนเทศเป็ยขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
5.     ระบบสารสนเทศจะทำงานได้มีประสิทธิภาพ องค์ประกอบต่างๆ ได้แก่ บุคลากกรต้องปฏิบัติงานตามขั้นตอน จัดการช้อมูลด้วยฮาร์ตแวร์ และเลือกใช้ซอฟแวร์ได้เหมาะสมกับลักษณะงาน
เฉลย 5 เพราะถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งระบบสารสนเทศจะไม่สมบูรณ์ ทำงานไม่ได้ โดยเฉพาะบุคลากรซึ่งจะต้องสามารถใช้องค์ประกอบอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.นี่คือลำดับการทำงานจากโจทย์ที่กำหนดให้ หมายเลข (2) และ (8) ตรงกับข้อใด

1.     For(n=1;n<=num : n++) และ average=sum/sum
2.     For(n=1;n<=num ;n>num) และ average=sum/sum
3.     For(n<=num ; n>num) และ average=sum/sum
4.     For(n<=num ; n<=num ; n++) และ average=sum/sum
5.     For(n=1;n<=num ; n>num) และ average=sum/sum
เฉลย 1 เพราะ หมายเลข 2 คือเงื่อนไขในการป้อนคะแนน หมายเลข 8 คือกฃ การประมวลผลหรือการแสดงผลลัพธ์

5.
ถ้าสองหน่วยงานนี้ต้องการติดต่อสื่อสารส่งข้อมูลกันต้องใช้โพรโทคอลชนิดใด
1.     ใช้ TCP/IP และ POP3
2.     ใช้ FTP เหมือนกัน
3.     ใช้ TCP/IP เหมือนกัน
4.     ใช้ SMTP และ IrDA
5.     ใช้ FTP และ IrDA
เฉลย 3 เพราะเครือคร่ายคอมพิวเตอร์จะรับขส่งข้อมูลกันได้ต้องใช้โพรโทคอลชนิดเดียวกัน และ ยู่TCP/IP ใช้ในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการแตกต่างกันและอยู่บนเครือข่ายแตกต่างกัน

ที่มา: https://pakornkrits.wordpress.com/tag/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A-o-net-56-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%A2/


วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 5 : เรื่องราวที่นักเรียนน่าสนใจ [Heckler & Koch MP5]


MP5 เป็นปืนที่มีน้ำหนักเบาไม่มากจนเกินไป ไม่หนักจนเกินไป มีความคล่องตัวสูง ผลิตมาจากบริษัท H&K ที่มีชื่อเสียงของโลก สัญชาติเยอรมัน MP5 คือปืนกลเบาที่มีชื่อเสียงเเละดังกระฉ่อนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของบรรดาปืนต่างๆที่ H&K ผลิตสร้างขึ้นมาเลยล่ะ ได้รับความนิยมไปยังหลายหน่วยงาน เช่น นาวิก , SEAL , NATO , SAS , SWAT เเละก็ยังถูกเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐอีกด้วย เป็นปืนกลที่มีประสิทธิภาพมาก มีความเเม่นยำเป็นเลิศ ระบบการยิง เเละระบบเซฟความปลอดภัยดีเจาะกลุ่มลูกค้าเป็นหลักดี ความทนทานดีไม่เป็นรองใคร เเรงสะท้อนเบาใช้ได้ คุมปืนง่าย เเม้เเต่ในเมืองไทยยังสั่งปืนนี้มาเข้าประจำการมาในเมืองไทยเหมือนกัน ปืน MP5 นั้นจะมีฟังก์ชั่นเยอะ เเล้วปืน MP5 เกือบทุกรุ่น จะมีเเม็กกาซีนพิเศษให้ใช้ด้วย เช่น BETA C-MAG เป็นเเม็กกาซีนบรรจุ 100 นัดคล้ายๆ เเม็กกาซีนของปืน MG36 ที่พัฒนามาจาก G36 เเตก็ไม่ค่อยนิยมใช้เท่าไรเพราะเเม็กกาซีนชนิดนี้จะหนักมากไปหน่อยน่ะ ส่วนเเบบ DRUM MAG จะเบากว่าเเบบ BETA C-MAG บรรจุ 70 -100 ได้ เเต่ก็ยังไม่นิยมเท่าเเบบเเม็กกาซีน 30 นัด เพราะมันคล่องตัวกว่า ซึ่งดีกว่า เเถมยังติดตั้งเเม็กกาซีนเป็นคลิปติดกัน 3 เเม็ก รวมกันเปน 90 นัด เเล้วเเปะกาวหนังไก้รอบเเม็กกาซีนด้ามปืน ซึ่งจะเปลี่ยนกระสุนเเละเเม็กกาซีนได้เรวกว่า เบากว่า คล่องตัวกว่าด้วย ไม่ใช่มีเเต่ MP5 อย่างเดียวที่ทำได้ปืนตระกูล M4A1 M16 ก็ทำได้ด้วย เช่นกัน
-น้ำหนัก : -2.54 กก.(5.6 ปอนด์)(MP5A2)
                -2.88 กก.(6.35 ปอนด์)(MP5A3)
-ยาว : พานท้ายติดตายตัว -680 มม.(26.8 นิ้ว)
          พานท้ายแบบยืดหดได้ -490 มม.(19.3นิ้ว)หด
                                              -660 มม.(26 นิ้ว)กาง
-ลำกล้องยาว : 225 มม. (8.85 นิ้ว)
-กระสุน : 9 X 19 มม. ลูเกอร์
-การทำงาน : ใช้ลูกกลิ้งหน่วงเวลา โบลว์แบ็ค หน้าลูกเลื่่อนปิด
-อัตราเร็วในการยิง : 800 นัด/นาที
-ความเร็วต้นปากลำกล้อง : 270 เมตร/วินาที (886 ฟุต/วินาที)
-ระยะหวังผลไกลสุด : 200 เมตร (219 หลา)
-ซองกระสุน : 15 หรือ 30 นัด
-ศูนย์เล็ง : หลัง : แบบหมุนปรับระยะยิง
                 หน้า : แบบแท่น มีครอบเคลือบสารตริเตรียม
ที่มา:http://www.thaiairsoftgun.com/board/index.php?topic=36873.0
        http://atcloud.com/stories/51874


วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 4 : โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

ภาษาคอมพิวเตอร์ (Computer Language) คือภาษาที่ใช้ หรือเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมักใช้ร่วมกับภาษาโปรแกรม 
แต่ภาษาคอมพิวเตอร์นั้นมีความหมายที่กว้างกว่า โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นภาษาโปรแกรม ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าภาษาอย่าง HTML หรือ SQL ไม่ใช่ภาษาโปรแกรม แต่ถือว่าเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม (Program Language) คือ วิธีการมาตรฐานในการสื่อสารสำหรับแสดงคำสั่งไปยังคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรมกำหนดไวยากรณ์และการตีความหมายจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้น ภาษาโปรแกรมทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถระบุอย่างชัดเจนถึงข้อมูลที่คอมพิวเตอร์จะทำงาน และวิธีการที่คอมพิวเตอร์จะประมวลผลข้อมูลเหล่านั้น ภาษาคอมพิวเตอร์มีการพัฒนาหรือมีวิวัฒนาการมาโดยลำดับเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ โดยจะสามารถแบ่งออกเป็นยุคหรือเป็นรุ่นของภาษา (Generation) ซึ่งในยุคหลังๆ จะมีการพัฒนาภาษาให้มีความสะดวกในการอ่านและเขียนง่ายขึ้นกว่าภาษาในยุคแรกๆ เนื่องจากจะมีโครงสร้างภาษาใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษ เราสามารถแบ่งภาษาคอมพิวเตอร์ออกได้เป็น 5 ยุคดังนี้
1. ภาษาเครื่อง (Machine Language) เป็นภาษาที่เกิดขึ้นในยุคแรกสุด และเป็นภาษาเดียวที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะสามารถเข้าใจคำสั่งได้ ภาษาเครื่องจะแทนข้อมูลหรือคำสั่งในโปรแกรมด้วยกลุ่มของตัวเลข 0 และ 1 หรือที่เรียกว่าเลขฐานสอง ซึ่งจะสัมพันธ์กับการเปิด (On) และการปิด (Off) ของสัญญาณไฟฟ้าภายในเครื่องคอมพิวเตอร์

 2. ภาษาแอสแซมบลี (Assembly Language) เป็นภาษาที่มีการใช้สัญลักษณ์ข้อความ (Mnemonic codes) แทนกลุ่มของเลขฐานสอง เพื่อให้ง่ายต่อการเขียนและการจดจำมากกว่าภาษาเครื่อง แต่เนื่องจากคอมพิวเตอร์รู้จักเฉพาะภาษาเครื่องเท่านั้น ดังนั้นภาษาแอสแซมบลี จึงต้องใช้ตัวแปลภาษาที่เรียกว่า แอสแซมเบลอร์ (Assembler)” เพื่อแปลคำสั่งภาษาแอสแซมบลีให้เป็นภาษาเครื่อง 

3. ภาษาชั้นสูง (High-level Language) เรียกอีกอย่างว่าภาษารุ่นที่ 3 (3rd Generation Languages หรือ 3GLs) เป็นภาษาที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถเขียนและอ่านโปรแกรมได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีลักษณะเหมือนภาษาอังกฤษทั่วๆ ไป และที่สำคัญคือ ผู้เขียนโปรแกรมไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับระบบฮาร์ดแวร์ ตัวอย่างของภาษาประเภทนี้ ได้แก่ ภาษาฟอร์แทน (FORTRAN) โคบอล (COBOL) เบสิก (BASIC) ปาสคาล (PASCAL) ซี (C) เอดา (ADA) เป็นต้น 

4. ภาษาชั้นสูงมาก (Very high-level Language) เรียกได้อีกอย่างว่าภาษาในรุ่นที่ 4 (4GLs: Fourth Generation Languages) ภาษานี้เป็นภาษาที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าภาษารุ่นที่ 3 มีลักษณะของภาษาในรุ่นที่เป็นธรรมชาติคล้ายๆ กับภาษาพูดของมนุษย์จะช่วย ในเรื่องของการสร้างแบบฟอร์มบนหน้าจอเพื่อจัดการเกี่ยวกับข้อมูล รวมไปถึงการออกรายงาน ซึ่งจะมีการจัดการที่ง่ายมากไม่ยุ่งยากเหมือนภาษารุ่นที่ 3 ตัวอย่างของภาษาในรุ่นที่ 4 ได้แก่ Informix-4GL, Focus, Sybase, InGres เป็นต้น


5. ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) เป็นภาษาในยุคที่ 5 ที่มีรูปแบบเป็นแบบ Nonprocedural เช่นเดียวกับภาษารุ่นที่ 4 ภาษา ธรรมชาตินี้ ถูกสร้างขึ้นมาจากเทคโนโลยีทางด้านระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System) ซึ่งเป็นงานที่อยู่ในสาขาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในการที่พยายามทำให้คอมพิวเตอร์เปรียบเสมือนกับเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง ที่สามารถคิดและตัดสินใจได้เช่นเดียวกับมนุษย์ การที่เรียกว่าภาษาธรรมชาติ เพราะมนุษย์สามารถใช้ภาษาพูดป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง 
ที่มา:https://kroobee.wordpress.com/2010/09/16/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C/

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 3 : Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย


ความหมายของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
          ราชบัณฑิตยสถาน (2554) ได้บัญญัติคำว่า “Social Media” ไว้ว่า “สื่อสังคม” หมายถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสื่อกลางที่ให้บุคคลทั่วไปมีส่วนร่วมสร้าง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ สื่อเหล่านี้เป็นของบริษัทต่าง ๆ ให้บริการผ่านเว็บไซต์ของตน
       สื่อสังคมออนไลน์ หรือ Social Media หมายถึง สื่อดิจิตอล หรือซอร์ฟแวร์ที่ทำงานอยู่บนพื้นฐานของระบบเว็บ หรือเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต ที่เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติการทางสังคม ที่มีผู้สื่อสารจัดทำขึ้น โดยที่ผู้เขียนจัดทำขึ้นเอง หรือพบเจอสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว เหตุการณ์ บทความ ประสบการณ์ รูปภาพ วิดีโอ และเพลง แล้วนำมาแบ่งปันเนื้อหา ข้อมูล ข่าวสาร ประสบการณ์ และพูดคุยให้ผู้ใช้ในโลกออนไลน์ ในเครือข่ายของตนได้รับรู้ ทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไว เสียง กับคนที่อยู่ในสังคมเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้ประโยชน์ร่วมกัน (Elizabeth, 2012; Jan 2011, อรวรรณ วงศ์แก้วโพธิ์ทอง2553)



คุณประโยชน์ของการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการศึกษา
(
Benefit of using Social Media in Education)
          สื่อสังคม หรือสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นสื่อใหม่ที่กำลังมีบทบาท และมีอิทธิพลค่อนข้างสูงในสังคมปัจจุบัน ซึ่งในส่วนของวงการศึกษา และการจัดการเรียนรู้ ได้มีการนำเอาสื่อเหล่านี้มาใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้เนื่องจากสังคมจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์หลายประการ ดังที่มีผู้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจ เช่น กลุ่ม The Social Media Advisory Group แห่งVictoria University ประเทศออสเตรเลีย กล่าวถึงประโยชน์ของโซเชียลมีเดียต่อการเรียนรู้ ไว้ว่า
1.เป็นการสร้างศักยภาพของการสื่อสาร/สื่อความหมาย สนองต่อความต้องการของการสื่อความหมายในการเรียนการสอนของผู้เรียน และทำให้ผู้เรียนได้รู้ถึงรูปแบบ และระดับในการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมทางการเรียนรู้ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ โดยใช้กระบวนการสื่อสารจากสื่อโซเชียลมีเดียเป็นตัวเชื่อมโยงประสบการณ์ดังกล่าว
2. เป็นสื่อที่เหมาะสมต่อการใช้ สื่อประเภทนี้เป็นสื่อที่ปรับใช้ให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อม ดังนั้น ประสิทธิภาพ และความสำเร็จจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยที่หลากหลาย ทั้งด้านสถานะทางสังคม และทัศนคติ การยอมรับ ดังนั้น จึงเป็นสื่อที่มีความเหมาะสมต่อการเสริมสร้างโอกาส และความรับผิดชอบของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
3.เป็นสื่อที่ใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเสริมประสบการณ์ระหว่างกลุ่มด้วยกัน ซึ่งสื่อโซเชียบมีเดียจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์สำคัญที่ผู้เรียนสามารถเลือก หรือสร้างช่องทางการเรียนรู้จากสื่อสังคมดังกล่าวที่กระทำได้ในหลากหลายกิจกรรมในการสื่อสาร
4.เป็นสื่อช่วยเสริมสร้างทักษะความรู้ได้อย่างมีวิจารณญาณ สื่อจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถสร้างทักษะองค์ความรู้ที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างทักษะการคิด วิเคราะห์ และทักษะในการใช้สื่อประเภทดิจิตอลได้อย่างมีประสิทธิผล


ผลกระทบต่อการศึกษาไทย

          แม้การใช้โซเชียลมีเดียจะมีประโยชน์อย่างมากในบทบาทของเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการเรียนการสอน แต่หากผู้สอนไม่มีการจัดการที่ดีอาจส่งผลกระทบทางลบต่อนักเรียนได้ เพราะนักเรียนอาจยังไม่สามารถควบคุม หรือกำกับตนเองให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม ซึ่งข้อดี และข้อเสียของการใช้โซเชียลมีเดียในการเรียนการสอน สรุปได้ดังนี้ (กานดา รุณพงศา สายแก้ว, 2554)

 ข้อดี หากมีการใช้งานในทางที่ถูกต้อง จะส่งผลดี ซึ่ง Poore(2013) ได้ยกตัวอย่างไว้ เช่น
1.  เป็นการส่งเสริมความสามารถทางสติปัญญาให้แก่ผู้เรียน
2.เป็นการฝึกทักษะสื่อสาร การมีส่วนร่วม รวมทั้ง ทำให้เกิดการเรียนรู้ทางสังคม
3.   เป็นการเสริมสร้างแรงจูงใจ
4.ปรับสภาพแวดล้อมการเรียนแบบเปิด ง่ายต่อการเชื่อมโยง สร้างความสัมพันธ์ระหว่างสังคมในชั้นเรียน
5.สนับสนุน และรองรับการสื่อสาร 2 ทาง สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในวิธีการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย เช่น การเรียนรู้แบบร่วมมือ การเรียนรู้แบบกลุ่มเล็ก หรือการร่วมกันสร้างองค์ความรู้
ข้อเสีย ผลกระทบที่เป็นอุปสรรค์ และปัญหาจากการใช้โซเชียลมีเดียในการเรียนการสอน สามารถยกตัวอย่างได้ดังนี้ (จุฑามาศ สนกนก, 2555)
1.ความไม่มั่นใจในความเสถียร และความคงอยู่ของเว็บ เพราะส่วนใหญ่โซเชียลมีเดีย เป็นเว็บที่เปิดให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในบางกรณีที่เว็บไซต์ปิดตัวลงโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือมีค่าใช้จ่ายสำหรับการทำงานเกิดขึ้น
2.การเชื่อมโยงระหว่างระบบ และข้อมูลผู้ใช้เพื่อการทำงานร่วมกันในสถานศึกษา หากไม่มีการควบคุม ผู้ใช้ที่อาจขาดความระมัดระวังในการใช้งาน เช่น การโพสข้อความหมิ่นประมาทก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเอง และองค์กรได้
3. ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล หากไม่มีการป้องกันที่ดี อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีนำไปใช้ในทางที่ผิดได้
4.อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีราคาสูง หากองค์กรนั้นไม่มีงบประมาณสนับสนุนเพียงพอ จะทำให้ใช้อุปกรณ์นั้น ๆ ได้ไม่คุ้มค่า เช่น ระบบอินเตอร์เน็ตหรือห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน หากไม่มีงบประมาณในการปรบปรุงจะทำให้เกิดความล้าสมัย หรือผู้ปกครองบ้างท่านที่ไม่สามารถสนับสนุนบุตรหลาน ในการซื้อคอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตเป็นของตนเอง
5.ขาดการคัดกรองในการสืบค้นข้อมูล และการรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดการขาดวิจารณญาณในการำเสนอข้อมูล รวมทั้งทำให้เนื้อหาที่นำเสนอผิดพลาดได้
ที่มา:http://edutech14.blogspot.com/2014/05/social-network-social-media.html