วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Week 9 : เรื่องราวที่นักเรียนน่าสนใจ [Desert Eagle]

Desert Eagle เข้าสู่สายการผลิตอย่างเป็นทางการในปี 1984 ในอิสราเอลโดย IMI รุ่นพื่นฐานของปืนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปืนที่ใช้กระสุนหนักระดับมหาโหดทั้งนั้น เช่น .357Magnum, .41Magnum, .44Magnum และ .50AE ( Action Express ) ตามลำดับโดย .50AE นั้นนับเป็นกระสุนปืนพกออโต้ที่มีพลังทำลายล้างสูงที่สุดในโลก ว่ากันว่ามันสามารถล้มกระทิงที่กำลังคลั่งอยู่ได้ในนัดเดียว
ปืนกระบอกนี้ใช้ระบบการทำงานแบบ Gas-Operated System ซึ่งเดิมทีระบบนี้ถูกออกแบบให้ใช้กับไรเฟิลทางการทหารเท่านั้น สาเหตุที่ต้องใช้ระบบนี้นั่นก็เพราะกระสุนที่ใช้กับปืนกระบอกนี้ล้วนแต่เป็นกระสุนระดับสุดยอด ซึ่งนอกจากจะมีหน้าตัดที่ใหญ่แล้ว ยังมีการเผาใหม้ของดินปืนและแกสในอัตตราที่สูงมาก แน่นอนว่าด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ระบบอื่นๆ ในปืนพกทั้งปวง ( ยกเว้นปืนลูกโม่ ) ไม่ว่าจะโบลว์แบ๊คหรือรีคอยล์ ก็คงจะรับไม่ไหว และจะเป็นอันตรายของผู้ใช้จึงต้องย่ออาวุธสงครามลงมาในปืนพกดังกล่าว ใน DE นั้นแทนที่จะเป็นเซียร์ควบคุมระบบออโต้อย่างปืนไรเฟิล ก็จะกลายเป้นห่วงคุมการบิดตัวของลำกล้องและคุมแก๊สแทนโดยห่วง 3 ห่วงนี้มีหน้าที่ในการคุมการทำงานของลูกถ่วงหมุนดักแก๊สจากการระเบิดของกระสุน เพื่อดักแก๊สในลำกล้องแล้วส่งไปยังรูระบายแก๊สเพื่อผลักดันลูกเลื่อน ในการขึ้นลำ ยิง และคัดปลอก ซึ่งอัตตราการทำงานนั้นจะระเบิดขึ้นในชั่วพริบตา และป้อนกระสุนกลับเข้าลำกล้องเพื่อพร้อมยิงนัดต่อๆ ไป ใน DE รุ่นแรกในปี 1984 มีห่วงคุมถึง 6 ห่วงด้วยกันแต่ต่อมาพบว่ามีผลเสียทางบริษัทจึงตัดสินใจตัดออกไปบางส่วน แต่ก็ออกแบบให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น หากบางคนคงมีข้อสงสัยว่าถ้าหากรูระบายแก๊สตันขึ้นมาละ ? จะยังยิงได้อยู่อีกเหรอ ? แน่นอนทาง IMI และ Magnum Research INC. ได้กล่าวไว้ว่าคราบตะกั่วที่ยิงจากตัวปืนแต่ละครั้งไม่ส่งผลเสียใดๆ และไม่ทำให้ท่อระบายแก๊สตันเพราะตะกั่วนั้นมีความอ่อนนิ่มจนเกินไป จึงไม่เป็นสาเหตุในการอุดตันของท่อแก๊ส แต่ถ้าเป็นดคลนหรือทรายละก้ไม่แน่...... หากตันจริงๆ ปืนก้ยังยิงได้ตามปรกติเพียงแต่ไม่ออโต้เท่านั้นเอง เราต้องบริหารกลไกด้วยมือเอง โดยการกระชากลำเลื่อนเพื่อคัดปลอกและป้อนกระสุนนัดต่อไปให้พร้อมยิง
ที่มา:http://www.thaiairsoftgun.com/board/index.php?topic=14049.0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น